หลักสูตรการสอน
เรียนขับรถยนต์ มี 3 หลักสูตร
เริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐาน (ขับไม่เป็น) จนสามารถขับรถบนถนนใหญ่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
1, หลักสูตร 15 ชั่วโมง เรียนขับรถ + อบรม + พร้อมสอบใบขับขี่ที่โรงเรียนได้เลย ไม่ต้องสอบขนส่ง ใช้เวลาเรียน 3 - 4 วัน
เน้นสอนออกถนนใหญ่ทุกวันรับรองผลขับรถได้ 100% สอบใบขับขี่ทุกวัน เสาร์อาทิตย์ ก็สอบได้ ไม่ต้องลางาน
2, หลักสูตรสำหรับท่านที่ขับรถเป็นแล้ว แต่ต้องการสอบใบขับขี่กับทางโรงเรียน ใช้เวลาเรียน 2 วัน
3, หลักสูตรเรียนขับรถ 8-12 ชั่วโมง (ไม่สอบ) ท่านที่มีใบขับขี่แล้วแต่ยังขับรถไม่คล่อง ถอยหลังไม่ได้ ขาดความมั่นใจในการขับรถออกถนนใหญ่ ใช้เวลาเรียน 2 - 3 วัน
เน้นสอนใช้งานจริงฝึกขับรถออกถนนใหญ่ทุกชั่วโมงเรียน เพิ่มทักษะประสบการณ์ขับรถให้กับผู้เรียน
ครูสอนใจดีมีมาตรฐานผ่านการอบรมจากกรมการขนส่งทางบกมีใบอนุญาตครูฝึกทุกคน
ให้ควานรู้ในด้านทักษะการขับรถ และ กฎหมายจราจร อย่างถูกต้อง
เพื่อลดอุบัติเหตุ สร้างนักขับขี่ที่ปลอดภัยสู่ท้องถนน
พร้อมฝึกขับทางตรง ทางเลี้ยว ท่าถอยหลังแบบต่างๆ
- คอร์ส 8 ช.ม. (สำหรับท่านที่มีพื้นฐานมาบ้างแล้ว)
- คอร์ส 12 ช.ม. (สำหรับท่านที่ไม่มีพื้นฐานเลย และ ต้องการความชำนาญในการขับรถ)
เรียนวันละ 4 ช.ม ผู้เรียนสามารถเลือกวันเวลาเรียนได้เอง
รอบที่เปิดสอน
รอบเช้า รอบบ่าย รอบเย็น
8.00-12.00 13.00 -17.00 16.30-20.30
ขั้นตอนการสอน
เริ่ม ตั้งแต่การจัดปรับแต่งท่านั่งขับที่เหมาะสม การวางเท้าที่ถูกต้อง การจับพวงมาลัยให้ถูกวิธี ให้ความเข้าใจกับอุปกรณ์ในรถยนต์ เช่น กุญแจสตาร์ท ครัช เบรก คันเร่ง แตร ไฟเลี้ยว ไฟต่ำ ไฟสูง มาตราวัดต่าง ๆ การจัดปรับแต่งกระจกมองหลัง กระจกมองข้าง ซ้าย – ขวา จากนั้นก็จะทำความข้าใจในเรื่องเกียร์ (เกียร์ธรรมดา, เกียร์ ออโต้) จนมีความเข้าใจและมั่นใจ และเริ่มสอนให้สตาร์ทเครื่องยนต์ เร่งและเบาเครื่อง เพื่อให้เกิดความเคยชินในการที่จะเร่งเครื่องหรือเบาเครื่องในขณะขับรถ สอนให้รู้จักการเข้าเกียร์ การเปลี่ยนเกียร์ วิธีออกรถและจอดรถอย่างถูกต้อง รถจะได้ไม่กระตุกจนเครื่องยนต์ดับ สอนให้รู้จักเช็คล้อหน้า และการเช็ควงเลี้ยว เพื่อที่จะได้เลี้ยวและคืนล้อหน้าได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
ขั้นตอนที่ 1 ทิศทาง
ขั้นตอนที่ 2 ควบคุม
ขั้นตอนที่ 3 จังหวะ
ท่าสอบบังคับมีทั้งหมด 3 ท่า
ท่าบังคับที่ 1
เริ่ม ตั้งแต่การจัดปรับแต่งท่านั่งขับที่เหมาะสม การวางเท้าที่ถูกต้อง การจับพวงมาลัยให้ถูกวิธี ให้ความเข้าใจกับอุปกรณ์ในรถยนต์ เช่น กุญแจสตาร์ท ครัช เบรก คันเร่ง แตร ไฟเลี้ยว ไฟต่ำ ไฟสูง มาตราวัดต่าง ๆ การจัดปรับแต่งกระจกมองหลัง กระจกมองข้าง ซ้าย – ขวา จากนั้นก็จะทำความข้าใจในเรื่องเกียร์ (เกียร์ธรรมดา, เกียร์ ออโต้) จนมีความเข้าใจและมั่นใจ และเริ่มสอนให้สตาร์ทเครื่องยนต์ เร่งและเบาเครื่อง เพื่อให้เกิดความเคยชินในการที่จะเร่งเครื่องหรือเบาเครื่องในขณะขับรถ สอนให้รู้จักการเข้าเกียร์ การเปลี่ยนเกียร์ วิธีออกรถและจอดรถอย่างถูกต้อง รถจะได้ไม่กระตุกจนเครื่องยนต์ดับ สอนให้รู้จักเช็คล้อหน้า และการเช็ควงเลี้ยว เพื่อที่จะได้เลี้ยวและคืนล้อหน้าได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
ขั้นตอนที่ 1 ทิศทาง
ทิศ ทางคือ การพารถยนต์ไปในทางที่ถูกกำหนดไว้ ครูผู้สอนจะสอนให้นักเรียนให้ความสำคัญในการมอง แบ่งช่องทางเดินรถให้เป็นเลน ทำความเข้าใจในตำแหน่งที่จะทำการเลี้ยวรถ เช็คตำแหน่งล้อหน้ารถขณะนั่งขับให้เป็น สอนให้เลี้ยวซ้าย – เลี้ยวขวา – ยู เทริน ให้มีความชำนาญ เพราะ ถือว่ามีความสำคัญมาก ถ้าไม่ให้ความสำคัญการขับรถก็จะไม่อยู่ในช่องทาง (ขับรถไม่ตรงทาง) และการเลี้ยวแต่ละครั้งจะไม่แม่นยำ ขั้น ตอนนี้ ทางโรงเรียนจะพาท่านไปในสนามที่เหมือนบนถนนจริงมาก กว้างขวาง มีทางร่วม ทางแยก จุดกลับรถ ระหว่างหัดขับผู้เรียนจะไม่รู้สึกเบื่อและมีความปลอดภัย |
ขั้นตอนที่ 2 ควบคุม
ควบ คุมคือการบังคับรถยนต์ ให้ได้ตามที่ต้องการ บังคับให้เร็วก็ได้ บังคับให้ช้าก็ได้ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการบังคับให้ได้ดังใจ แต่การที่จะบังคับรถให้ได้ดังใจนั้นผู้เรียนจะต้องให้รายละเอียดกับการ บังคับ ครัส เบรค คันเร่ง เกียร์ และถ้าควบคุมรถได้แล้วการขับรถก็คือการขับรถตามรถคันหน้า และบังคับรถไม่ให้ไปชนรถคันข้างหน้า การออกรถบนทางลาดชัน เช่น บนสะพาน ทางขึ้นชั้นจอดรถโดยไม่ให้รถถอยหลังหรืองเครื่องดับ
ขั้นตอนนี้ ทางโรงเรียนจะให้ท่านได้ฝึกกับสะพานจริงเพื่อให้เกิดความชำนาญ
|
ขั้นตอนที่ 3 จังหวะ
จังหวะ คือการวิเคราะห์และการคาดคะเนเว้นระยะห่าง ระหว่างรถเรากับรถคันหน้าให้มีช่องว่างห่างพอประมาณ รู้ว่า จังหวะไหนจะเร่งจังหวะไหนจะผ่อนโดยการสังเกตระยะห่างของรถคันหน้า ถ้าระยะห่างน้อยก็ผ่อนให้ช้า ถ้าระยะห่างมากก็เร่งให้เร็วและครูผู้ฝึกสอนจะให้นักเรียนหัดวิเคราะห์และ คาดคะเนถนนข้างหน้าก่อนที่จะขับรถเข้าไป การขับรถไม่ใช่การวิ่งเข้าไปหาคันหน้าแล้วเบรค แต่เป็นการขับรถจับจังหวะระยะห่างที่เหมาะสมและใช้เบรคให้น้อยที่สุด สอนให้รู้การจับจังหวะรถด้านข้างและด้านหลัง โดยการมองกระจกข้างและกระจกมองหลัง ฝึกหัดให้ใช้สัญญาณไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 30 เมตร เพื่อทำการเปลี่ยนช่องทางเดินรถ มีความปลอดภัยมากขึ้น
ขั้นตอนนี้ ครูจะพานักเรียนที่ผ่านการฝึกตามขั้นตอนที่ 1,2,3 จนมีความชำนาญดีแล้ว จึงพาออกไปตามถนนใหญ่และทางหลัก ทางรอง สายต่างๆ โดยผ่านทางร่วม ทางแยก สะพาน ทางโค้ง ทางคับขัน เพื่อให้นักเรียนเกิดความชำนาญ ความเคยชิน และเกิดความมั่นใจกับการขับรถร่วมกับผู้ใช้ทางท่านอื่นๆ
|
ขั้นตอนที่ 4 สนามทดสอบใบอนุญาตขับขี่
ขั้นตอนนี้ จะเป็นการนำความรู้ที่เรียนมาทั้งหมดเอามาใช้ทดสอบท่าสอบของกรมการขนส่งทางบก
ครูผู้ฝึกจะมีเทคนิคและสูตรท่าสอบที่เข้าใจง่ายและได้ผลให้ฝึกซ้อมจนเกิดความเคยชินมั่นใจคล่องตัวและชำนาญก่อน จึงให้ท่านนำรถลงสนามสอบจริงเพื่อสอบวัดผลในโรงเรียนเพื่อสอบใบอนุญาตขับขี่ (โดยไม่ต้องสอบที่ขนส่ง)
ครูผู้ฝึกจะมีเทคนิคและสูตรท่าสอบที่เข้าใจง่ายและได้ผลให้ฝึกซ้อมจนเกิดความเคยชินมั่นใจคล่องตัวและชำนาญก่อน จึงให้ท่านนำรถลงสนามสอบจริงเพื่อสอบวัดผลในโรงเรียนเพื่อสอบใบอนุญาตขับขี่ (โดยไม่ต้องสอบที่ขนส่ง)
ท่าสอบบังคับมีทั้งหมด 3 ท่า
ท่าบังคับที่ 1
การขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง
ท่าบังคับที่ 2
การขับรถถอยหลังเข้าจอดและเดินหน้าออกจากช่องว่างทางด้านซ้ายขนานกับขอบทาง
ท่าบังคับที่ 3 การขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้าห่างขอบฟุตบาดได้ไม่เกิน 25 ซ.ม.
ทุกขั้นตอนมีสูตรและเทคนิคทำให้เข้าท่าสอบได้ง่ายและแม่น แม้ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถทำได้